หลักการทำงานของเครื่องอัลตราซาวด์ 4 มิติ ก็คือ เครื่องจะทำการส่งคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ออกไปจากหัวตรวจ ผ่านผิวหนังลงไปยังเนื้อเยื่อที่อยู่ภายในร่างกาย แล้วสะท้อนกลับออกมา หัวตรวจจะทำหน้าที่รับสัญญาณคลื่นเสียงที่สะท้อนกลับมา โดยที่คอมพิวเตอร์ที่อยู่ในเครื่องอัลตราซาวด์จะทำการประมวลสัญญาณที่สะท้อนกลับมาและสร้างเป็นภาพขึ้นมาได้ และแสดงภาพออกมาเป็นภาพ 3 มิติ ซึ่งมีความลึกของภาพ ทำให้ภาพของทารกดูเหมือนจริงมากยิ่งขึ้นและยิ่งไปกว่านั้นเครื่องตรวจอัลตราซาวด์ 4 มิติ ยังสามารถเก็บภาพ 3 มิติแต่ละภาพไว้แล้วนำมาแสดงผลเรียงต่อกันกลายเป็นภาพเคลื่อนไหวเสมือนเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในขณะนั้น จึงเรียกภาพที่เห็นนี้ว่า Real time ด้วยเทคโนโลยี อัลตร้าซาวด์ 4 มิติ นี้จึงช่วย ให้เราสามารถศึกษาพฤติกรรมต่างๆ ของทารกในครรภ์ได้อย่างชัดเจน
สิ่งสำคัญที่ได้จากการตรวจอัลตร้าซาวด์ 4 มิติ คือ
ทุกช่วงของอายุครรภ์สามารถทำการตรวจด้วยอัตร้าซาวด์ 4 มิติ ได้ แต่ภาพที่ได้ในแต่ละช่วงอายุครรภ์จะแตกต่างกันในช่วงอายุครรภ์น้อยๆ จะช่วยให้สามารถมองเห็นภาพของทารกทั่วร่างกาย ในขณะที่การตรวจในช่วงที่อายุครรภ์มากจะช่วยให้มองเห็นรายละเอียดต่างๆ ของร่างกายของทารกได้มากขึ้น เนื่องจากมีการพัฒนาอวัยวะต่างๆ ของร่างกายไปมาก หากอายุครรภ์มากกว่า 35 สัปดาห์ อาจะเห็นใบหน้าไม่ชัดเจนเนื่องจากทารกกลับศีรษะลงและเริ่มเข้าสู่ช่องเชิงกรานแล้ว อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะอยู่ในช่วงอายุครรภ์น้อยกว่า 32 สัปดาห์ แต่ถ้าทารกในครรภ์อยู่ในท่าหันหลังให้ตลอดระยะเวลาการตรวจก็อาจไม่สามารถมองเห็นใบหน้าชัดเจนได้เช่นกัน จึงขอแนะนำให้เข้ามาตรวจในช่วงอายุครรภ์ 26-28 สัปดาห์ จะดีที่สุด
การตรวจอัลตร้าซาวด์ 4 มิติ ล้วนไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อทารกและมารดา แม้ว่าจะมีการตรวจซ้ำหลายครั้งก็ตาม แต่กลับเป็นประโยชน์ในการวินิจฉัยความผิดปกติของทารก และช่วยให้แพทย์สามารถทำการตัดสินใจในการให้การรักษาได้ดีขึ้น ดังนั้นการตรวจอัลตร้าซาวด์จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับหญิงตั้งครรภ์ทุกราย
โทร. 044-015-999 หรือ โทร. 1719
วันจันทร์–วันอาทิตย์ เวลา 08.00-19.00 น.