ผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดปกติส่วนหนึ่งจะไม่มีอาการ ทำให้ไม่ได้ตระหนักถึงความสำคัญและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งทำให้ผู้ป่วยประสบปัญหาในการดำเนินชีวิต ตั้งแต่อัมพาตจนถึงเสียชีวิต
หัวใจเต้นผิดจังหวะ (Cardiac arrhythmia) กลุ่มโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ คือโรคที่มีความผิดปกติของการนำไฟฟ้าภายในหัวใจ ส่งผลทำให้จังหวะการเต้นของหัวใจผิดไปจากปกติ ลักษณะการเต้นของหัวใจอาจจะเต้นช้า เต้นเร็ว เต้นไม่สม่ำเสมอ หรือเต้นสะดุดก็ได้
การตรวจพิเศษอื่นๆ ตามความเหมาะสม เช่น
เนื่องจาก กลุ่มโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะสามารถมีอาการเป็นๆหายๆได้ ทำให้การตรวจ ณ ขณะที่ไม่มีอาการแล้วปกติได้ ทำให้มีความจำเป็นที่ต้องตรวจเพิ่มเติมโดยการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจชนิดพกพาหรือติดกลับไปที่บ้าน (Ambulatory ECG monitoring) ซึ่งประกอบไปด้วย
1. Holter monitoring
เครื่องติดตามคลื่นไฟฟ้าหัวใจทุกๆจังหวะ เป็นเวลา 24-48 ชั่วโมง (หรือในบางรุ่น ติดได้ถึง 7 วัน)
• ข้อดี : ติดกับตัวตลอดเวลา ทำให้ได้ข้อมูลคลื่นไฟฟ้าหัวใจตลอดทั้งวัน
• ข้อเสีย : มักจะติดได้ไม่เกิน 48 ชั่วโมง เพราะแบตเตอรี่จำกัด ทำให้ใช้วินิจฉัยโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะที่มีอาการนานๆครั้งไม่ได้
• เหมาะกับผู้ที่มีอาการสงสัยหัวใจเต้นผิดจังหวะ มากกว่า 1 ครั้งต่อสัปดาห์
2. Event recorder
เครื่องที่ใช้เพื่อตรวจจับคลื่นหัวใจเป็นครั้งๆ ครั้งละ 30-60 วินาที ไม่ได้เปิดการตรวจจับตลอดเวลา
• ข้อดี : สามารถเก็บไว้ตรวจได้นาน เนื่องจากไม่ต้องเปิดเครื่องไว้ตลอดเวลา
• ข้อเสีย : ต้องมีอาการนานพอที่จะเก็บคลื่นไฟฟ้าหัวใจทัน (ประมาณ 30 วินาทีขึ้นไป) ไม่สามารถตรวจในคนที่มีอาการหมดสติได้
• เหมาะกับผู้ที่มีอาการสงสัยหัวใจเต้นผิดจังหวะนานๆเป็นที เช่น น้อยกว่า 1 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยแต่ละครั้งมีอาการนานพอที่จะหยิบเครื่องมาตรวจจับได้เอง
3. External loop recorder
เป็นเครื่องที่ติดตัวไว้ จับสัญญาณคลื่นหัวใจตลอดเวลา จะบันทึกข้อมูลไว้ก็ต่อเมื่อ หัวใจเต้นผิดจังหวะตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ หรือตอนที่เรากดให้บันทึก มักจะติดไว้ 1-4 สัปดาห์
• ข้อดี : ติดกับตัวตลอดเวลา สามารถบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจย้อนเวลาจากตอนที่กดบันทึกได้ประมาณ 20-60 วินาที
• ข้อเสีย : ติดไว้กับตัวค่อนข้างนาน ต้องถอดออกเวลาอาบน้ำ และเปลี่ยนแผ่นติดผิวเอง
• เหมาะกับผู้ที่มีอาการนานๆครั้ง โดยแต่ละครั้งมีอาการสั้นๆ หรือมีหน้ามืดหมดสติ
โทร. 044-015-999 หรือ โทร. 1719