Bangkok Hospital Ratchasima

1. เกี่ยวกับเรา

บริษัท โรงพยาบาลกรุงเทพราชสีมา จำกัด เลขที่ 1308/9 ถนนมิตรภาพ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา เว็บไซต์ www.bkh.co.th/main บริษัทฯ เป็นสถานพยาบาลที่ให้บริการตรวจ รักษาโรค และบริการทางการแพทย์ ซึ่งมีฐานะเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 บริษัทฯ จึงแจ้งเอกสารฉบับนี้ให้ท่านทราบ ถึงเหตุผลและวิธีการที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงแจ้งให้ท่านทราบสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

2. วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูล

บริษัทฯ ใช้ระบบกล้องวงจรปิด ในการเก็บภาพเคลื่อนไหวของท่านเพื่อ:

  • ป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล เช่น การก่ออาชญากรรม

  • เพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เช่น เพื่อระงับเหตุอันตราย เหตุการณ์ที่ไม่ปกติ หรือเหตุการณ์ฉุกเฉิน

3. จุดที่ตั้งกล้องวงจรปิด

  • กล้องวงจรปิดมีจำนวน 385 ตัว (ข้อมูล ณ วันที่ 20 พฤษภาคม 2565 โรงพยาบาลอาจมีการเพิ่มหรือลดจำนวนตามความเหมาะสม)

  • จุดที่ตั้งของกล้องวงจรปิด กระจายอยู่ทั่วโรงพยาบาล โดย กล้องวงจรปิดสามารถมองเห็นและเก็บข้อมูลได้ทุกจุดบริการและพื้นที่ปฏิบัติงาน ยกเว้นห้องน้ำ ห้องตรวจแพทย์ ห้องพักผู้ป่วย ห้องหัตถการ ทั้งนี้ห้องพักผู้ป่วยอาจมีการติดตั้งกล้อง CCTV เพื่อติดตามอาการผู้ป่วยในกรณีพิเศษ ซึ่งจะมีการแจ้งให้ทราบก่อนเข้ารับบริการ อีกทั้งกล้อง CCTV ณ แผนกการเงินเป็นกล้อง CCTV ที่สามารถบันทึกเสียงได้

4. ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

  • ระบบกล้องวงจรปิด จะเก็บภาพเคลื่อนไหวของบุคคลที่เข้ามาในระยะที่กล้องสามารถจับภาพได้ตลอด 24 ชั่วโมง และข้อมูลภาพเคลื่อนไหวจะถูกลบทิ้งโดยอัตโนมัติทุก ๆ 30 วัน

  • ในกรณีที่เกิดเหตุอันตรายและข้อมูลในกล้องวงจรปิดได้นำไปใช้ในกระบวนการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่รัฐ ข้อมูลในกล้องวงจรปิดดังกล่าวจะนำไปใช้จนกว่ากระบวนการสืบสวนสอบสวนจะยุติลง

  • ·หากข้อมูลในกล้องวงจรปิด ต้องนำไปใช้ในกระบวนการทางศาลเพื่อพิจารณาคดี ข้อมูลในกล้องวงจรปิดดังกล่าวจะนำไปใช้จนกว่ากระบวนการทางศาลนั้นจะสิ้นสุดลง

5. มาตรการด้านความปลอดภัย

บริษัทฯ จะจัดการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลด้วยมาตรการเชิงองค์กรและเชิงเทคนิคไม่น้อยกว่าระดับที่กฎหมายกำหนด และด้วยระบบที่เหมาะสม เพื่อป้องกันและรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น และจัดเก็บในสถานที่ที่มีระบบป้องกันการเข้าถึงที่จำกัด

กรณีที่บุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการขอดูหรือขอบันทึกข้อมูลจากกล้องวงจรปิด จะต้องดำเนินการตามขั้นตอน ดังนี้

  • กรอกแบบฟอร์มแจ้งความจำนงขออนุญาตดูบันทึกกล้องวงจรปิด

  • กรณีที่มีการร้องขอบันทึกข้อมูลกล้องวงจรปิดจะต้องแนบเอกสารบันทึกประจำวันจากตำรวจเพื่อแสดงความจำเป็นในการขอบันทึกข้อมูล

  • ส่งแบบฟอร์มมายังผู้ตรวจการ (Supervisor) เพื่อนำเสนอผู้บังคับบัญชาอนุมัติตามนโยบายของโรงพยาบาล

  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำห้องควบคุมกล้องวงจรปิด รับแจ้งข้อมูลเรื่องการขอดูหรือขอบันทึกข้อมูลจากกล้องวงจรปิด จากผู้ตรวจการ (Supervisor)

  • ในกรณีอนุญาตให้ดูข้อมูลได้ ให้ผู้ตรวจการ (Supervisor) และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำห้องควบคุมกล้องวงจรปิด ร่วมอยู่ในขณะที่ผู้ร้องขอดูกล้องวงจรปิด

  • ให้บันทึกข้อมูลของผู้ร่วมดูข้อมูล และผลการตรวจสอบลงในแบบฟอร์มแจ้งความจำนงขอดูหรือขอบันทึกข้อมูลจากกล้องวงจรปิด และส่งต่อแบบฟอร์มให้กับหรือผู้จัดการฝ่ายที่รับผิดชอบงานรักษาความปลอดภัยเพื่อรับทราบ

  • กรณีที่มีการร้องขอข้อมูลกล้องวงจรปิดจากตำรวจ จะต้องได้รับการอนุมัติจากผู้อำนวยการบริษัทฯ โดยเป็นลายลักษณ์อักษร

6. การแบ่งปันข้อมูลในกล้องวงจรปิดกับบุคคลที่สาม

  • บริษัทฯ อาจแบ่งปันข้อมูลในกล้องวงจรปิดกับเจ้าหน้าที่รัฐ เช่น เฉพาะกรณีที่มีการร้องขอโดยเป็นลายลักษณ์อักษร และการร้องขอนั้นเป็นไปเพื่อกระบวนการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่รัฐ หรือเพื่อการดำเนินคดีในกระบวนการทางศาล

  • บริษัทฯ อาจให้ผู้ให้บริการกล้องวงจรปิด (CCTV Vendor) เข้าถึงข้อมูลได้เพื่อการซ่อมบำรุงระบบเฉพาะในกรณีที่ได้รับอนุญาตจากบริษัทฯ แล้วเท่านั้น และผู้ให้บริการจะต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เห็นชอบแล้วเท่านั้นในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลในกล้องวงจรปิด

7. สิทธิของท่าน

ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิร้องขอให้บริษัทฯ ดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามขอบเขตที่กฎหมายอนุญาตให้กระทำได้ ดังนี้

1. สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (right to withdraw consent): ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความ ยินยอมในการประมวลผลข้อมูลสวนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทฯ ได้ตลอดระยะเวลาที่ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัทฯ

2. สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (right of access): ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของ ท่านและขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว รวมถึงขอให้บริษัทฯ เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อบริษัทฯ ให้แก่ท่านได้

3. สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (right to rectification): ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทฯ แก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือ เพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์

4. สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (right to erasure): ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทฯ ทำการลบข้อมูลของ ท่านด้วยเหตุบางประการได้

5. สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (right to restriction of processing): ท่านมีสิทธิในการให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้

6. สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (right to data portability): ท่านมีสิทธิในการโอนย้าย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับบริษัทฯ ไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่น หรือตัวท่านเองด้วยเหตุบาง ประการได้

7. สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (right to object): ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้

ท่านสามารถติดต่อ สอบถามหรือใช้สิทธิใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล ได้ที่ อีเมล weeravong.ra@bdms.co.th, [email protected]

หรือสามารถติดต่อด้วยตนเองที่ บริษัท โรงพยาบาลกรุงเทพราชสีมา จำกัด

เลขที่ 1308/9 ถนนมิตรภาพ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา 30000 เบอร์โทรศัพท์ 044-015999